ความทนทาน: เฟรมโลหะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและความยืดหยุ่น สามารถทนต่อน้ำหนักและแรงกดได้มาก ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานหนัก
อายุยืน: กรอบโลหะมักทนทานกว่าวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้หรือพลาสติก มีความไวต่อการสึกหรอน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ได้

ความมั่นคง: โครงโลหะให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงของการโยกเยกหรือการเอียง นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสิ่งของต่างๆ เช่น เก้าอี้และโต๊ะ
การออกแบบที่ทันสมัยและเพรียวบาง: เฟอร์นิเจอร์โครงโลหะมักมีการออกแบบร่วมสมัยและเรียบง่าย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับความสวยงามทั้งภายในและภายนอกที่ทันสมัย
ใช้งานได้หลากหลาย: โครงโลหะใช้กับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่เก้าอี้และโต๊ะไปจนถึงโครงเตียงและชั้นวางของ สามารถรวมเข้ากับธีมการออกแบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
การบำรุงรักษาต่ำ: โดยทั่วไปแล้วเฟอร์นิเจอร์โครงโลหะต้องการการบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อย ทำความสะอาดง่ายและมีโอกาสเกิดคราบหรือความเสียหายน้อยกว่าวัสดุอื่นๆ
ทนทานต่อสภาพอากาศ: เฟอร์นิเจอร์โครงโลหะหลายชิ้นเหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง เนื่องจากโลหะจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น ฝน แสงแดด และความผันผวนของอุณหภูมิน้อยกว่า
การปรับแต่ง: กรอบโลหะสามารถทาสีหรือเคลือบด้วยสีและพื้นผิวที่แตกต่างกันเพื่อให้ตรงกับสไตล์ที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับวัสดุต่างๆ เช่น แก้วหรือไม้
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: เฟอร์นิเจอร์โครงโลหะบางชิ้นทำจากวัสดุรีไซเคิลได้ จึงเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การทนไฟ: ขึ้นอยู่กับประเภทของโลหะที่ใช้ เฟอร์นิเจอร์โครงโลหะอาจทนไฟได้ดีกว่าวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้
ความจุน้ำหนักสูง: เฟรมโลหะมักจะรองรับน้ำหนักที่หนักกว่าเมื่อเทียบกับเฟรมที่ทำจากวัสดุอื่น ทำให้เหมาะสำหรับบุคคลขนาดใหญ่หรือสถานการณ์การใช้งานหนัก
ความต้านทานต่อสัตว์รบกวน: โลหะไม่ไวต่อการเข้าทำลายของสัตว์รบกวน เช่น ปลวก ซึ่งแตกต่างจากไม้ ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในบางสภาพแวดล้อม
สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความต้องการและความชอบเฉพาะของคุณเมื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์ แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์โครงโลหะจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกนั้นเหมาะสมกับการออกแบบโดยรวมและความต้องการด้านการใช้งานของคุณ